ประวัติอันยาวนานในด้านความยั่งยืนของเรา
หัวข้อ:โดยลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยอนุรักษ์สภาพแวดล้อม และเพื่อช่วยให้ชุมชนทั่วโลกและในท้องถิ่นเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

ความรับผิดชอบต่อสังคม
หัวข้อ:1900
การก่อตั้งชมรมดนตรี Swarovski และชมรมจักรยาน Swarovski ในช่วงแรกชมรมเหล่านี้จัดตั้งขึ้นในฐานะกิจกรรมของบริษัท ต่อมาไม่นานก็ได้เปิดโอกาสให้ชาวเมืองทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ แดเนียล สวารอฟสกี้เป็นสมาชิกที่มีบทบาทในทั้งสองชมรม
1908-1909
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 1902 แดเนียล สวารอฟสกี้ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสภาท้องถิ่นแห่งวัตเทนส์ ในปี 1908 เขาได้รับเลือกเป็นประธานสภาท้องถิ่น และเพียงหนึ่งปีต่อมาในปี 1909 เขาเริ่มสร้างท่อส่งน้ำใหม่เพื่อส่งน้ำจืดเข้าไปที่หมู่บ้าน
1909
หลังจากที่พนักงานบริษัทจำนวนมากและครอบครัวของพนักงานย้ายเข้ามา โรงเรียนแห่งเดิมในวัตเทนส์จึงมีขนาดเล็กเกินไปที่จะรองรับเด็กให้ครบทุกคน มารี สวารอฟสกี้ซึ่งเป็นภรรยาของแดเนียลจึงบริจาคพื้นที่ก่อสร้างสำหรับสร้างอาคารเรียนหลังใหม่
1959
Swarovski นำเสนอหลักสูตรฝึกอบรมเฉพาะทางที่ครอบคลุม 8 สาขาอาชีพ รวมถึงหลักสูตรการเจียระไนคริสตัล ซึ่งเป็นหลักสูตรสาขานี้เพียงหนึ่งเดียวในออสเตรีย
1960
มีการจัดตั้ง “The Daniel and Marie Swarovski Trust” เพื่อมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่มีผลการเรียนดีเยี่ยม และมาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อยที่อาศัยอยู่ในทิโรล
1978
มีการจัดตั้ง "วิทยาลัยอาชีวศึกษา" เพื่อเปิดโอกาสให้มีการฝึกงานในสถาบันโดยเป็นไปตามหลักการที่ดีในการใช้ทักษะและความถนัดในที่ทำงาน Swarovski เป็นหนึ่งในบริษัทเพียงไม่กี่แห่งในออสเตรียที่จัดตั้งวิทยาลัยในลักษณะดังกล่าว

การควบคุมพลังของน้ำ
หัวข้อ:1907
มีการก่อสร้าง Ausserachen ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่แห่งแรกของบริษัท กังหันน้ำแบบเพลตันสามเครื่องได้ผลิต “พลังงานไฟฟ้าของ Swarovski” ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดสำหรับเครื่องเจียระไน แสงสว่างสำหรับพื้นที่ทำงาน ตลอดจนพื้นที่ขนาดใหญ่ในวัตเทนส์และชุมชนบนภูเขาที่อยู่ใกล้เคียง
1951
โรงไฟฟ้าพลังน้ำ Ausserachen ได้รับการปรับปรุงให้มีกำลังการผลิต 750 กิโลวัตต์
1961
ความต้องการพลังงานสะอาดที่เพิ่มขึ้นทำให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้า Innerachen ซึ่งมีกำลังการผลิต 2,200 กิโลวัตต์โดยใช้กังหันน้ำแบบฟรานซิสสองเครื่อง
1983
โรงไฟฟ้าพลังน้ำ Wattenbach สร้างขึ้นด้วยความร่วมมือกับโรงงานกระดาษในวัตเทนส์ โรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิตเฉลี่ย 57 กิกะวัตต์ต่อปี
1984
กำลังการผลิตมาตรฐานของโรงไฟฟ้า Innerachen เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1.35 กิกะวัตต์ต่อปี เนื่องจากมีกังหันแบบเพลตันหัวฉีดคู่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเครื่อง
1995
โรงไฟฟ้า “Haneburger” เป็นโครงการต้นแบบสำหรับการผลิตพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเทือกเขาแอลป์ และได้เริ่มปฏิบัติงาน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โรงไฟฟ้านี้ก็ผลิตไฟฟ้าได้ ประมาณ 18.5 กิกะวัตต์ต่อปี
2001
โรงไฟฟ้าทั้งหมดของ Swarovski ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานของออสเตรียว่าเป็นผู้ผลิต "พลังงานไฟฟ้าแบบประหยัดพลังงาน" ที่ได้รับการรับรอง

บ้านสำหรับทุกคน
หัวข้อ:1947
การวางศิลาฤกษ์สำหรับอาคารที่พักอาศัยใหม่ของบริษัทที่ “Kreuzbichl” (เนินเขาใกล้กับวัตเทนส์) การก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 1950 และมีโครงการที่อยู่อาศัยอีกหลายโครงการจนถึงปัจจุบัน
1948
มีการจัดตั้งสำนักงานสวัสดิการของบริษัท เพื่อจัดการกับปัญหาด้านสังคมและการเงินของพนักงาน นโยบายด้านที่อยู่อาศัยของเรานำเสนอสินเชื่อที่อยู่อาศัยในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ความช่วยเหลือด้านวัสดุสำหรับการก่อสร้างที่อยู่อาศัย และบริการสนับสนุนหากเกิดกรณีเหตุฉุกเฉินทางการเงิน
1951
การเริ่มต้นก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยสองแห่งจนแล้วเสร็จสำหรับพนักงานของ Swarovski Optik ในอับซัม และพนักงานของ Swarovski ในโวลเดอร์ส ออสเตรีย
1952
การเริ่มต้นก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยเพิ่มเติมจนแล้วเสร็จสำหรับพนักงานของ Swarovski ในฟริตเซนส์ ออสเตรีย
2005
พิธีเปิดบ้านห้องแถวใหม่ 58 ห้องสำหรับพนักงาน โครงการนี้ช่วยให้พนักงานสามารถเช่าหรือซื้อพื้นที่อยู่อาศัยได้ในราคาปานกลาง

ทรัพยากรอันล้ำค่า
หัวข้อ:1970
ระบบหมุนเวียนสำหรับหอทำความเย็นในกระบวนการทำความเย็นของเครื่องอัดอากาศได้นำมาใช้งานเป็นครั้งแรก ซึ่งช่วยประหยัดน้ำที่จำเป็นต้องใช้ในกระบวนการทำความเย็นได้ประมาณ 90%
1978-1982
โรงงานบำบัดน้ำเสียเริ่มปฏิบัติงาน โดยนำน้ำทั้งหมดที่ปล่อยออกจากโรงงานที่ 1 มาผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำ ต่อมาจึงมีกลุ่มโครงการริเริ่มต่าง ๆ เพื่อขยายกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำไปยังโรงงานที่ 2 และยังขยายขีดความสามารถของโรงงานปรับปรุงคุณภาพน้ำ ตลอดจนแบ่งน้ำในกระบวนการออกเป็นน้ำสำหรับกระบวนขัดเงา และน้ำสำหรับหมุนเวียนในกระบวนการเจียระไน

อากาศที่สะอาดขึ้น
หัวข้อ:1984
Swarovski นำเข้า น้ำมันที่มีระดับกำมะถันต่ำไปยังเยอรมนีเพื่อใช้ในกระบวนการให้ความร้อน ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นต่อปีเป็นมูลค่าเท่ากับ 210,000 ยูโรในปัจจุบัน แต่สามารถลดการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ได้ถึง 60 ตัน ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงได้รับรางวัลด้านสิ่งแวดล้อม “Green Branch” จากรัฐบาลกลางของรัฐทิโรล
1990
Swarovski หันมาใช้ก๊าซธรรมชาติ จากนั้นเป็นต้นมา เรานำก๊าซมาใช้แทนน้ำมันทำความร้อนในกระบวนการสร้างความร้อนและการหลอมคริสตัล จึงช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 30%
1996
ฝ่ายกระบวนการขึ้นรูปแก้วใช้แผ่นกรองฝุ่นแบบพิเศษในรูปแบบใหม่ และระบบการสกัดแบบใหม่ จึงทำให้สามารถลดการปล่อยมลพิษ ป้องกันมลพิษ และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านสุขภาพสำหรับพนักงานให้ต่ำกว่าขอบเขตที่กฎหมายกำหนดไว้

โครงการ Swarovski Waterschool
หัวข้อ:2000
โครงการ Swarovski Waterschool แห่งแรกเปิดดำเนินการที่อุทยานแห่งชาติโฮเฮอเทาเอิร์นในลุ่มแม่น้ำดานูบของออสเตรีย โดยใช้โปรแกรมการศึกษาเพื่อสอนให้เด็กและผู้ใหญ่เข้าใจเรื่องความสำคัญของน้ำ และการขาดแคลนน้ำ
2006
Swarovski Waterschool India เป็นโครงการแรกนอกออสเตรีย เปิดดำเนินการที่อุทยานแห่งชาติ Keoladeo ในลุ่มแม่น้ำคงคาของรัฐราชสถาน
2008
โครงการ Swarovski Waterschool เริ่มดำเนินการในหกภูมิภาคริมแม่น้ำแยงซีในจีนและอีก 20 ชุมชนในเขตคานุงกูในยูกันดา
2014
โครงการ Waterschool ดำเนินการที่รัฐปาราทางตอนเหนือของบราซิล โดยเน้นการศึกษาเรื่องน้ำและสิ่งแวดล้อมโดยใช้การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในโรงเรียนและชุมชน
2016
การเปิดตัวโครงการนำร่องสามโครงการร่วมกับองค์กรต่าง ๆ โดยเน้นเรื่องแหล่งน้ำในท้องถิ่น NGRREC: แม่น้ำมิสซิสซิปปี้ มูลนิธิรักษ์ไทย ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา Fundação Amazonas Sustentável: แอมะซอน
2017
ด้วยการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่เป็นองค์การนอกภาครัฐ Swarovski Waterschool ได้เปิดตัวสื่อการสอนและการเรียนรู้ ‘Drops of Knowledge for Rivers of Change’ สำหรับทั่วโลกบนเว็บไซต์ Swarovski Waterschool
2018
การเปิดตัวสารคดี ‘Waterschool’ บน Netflix ซึ่งติดตามประสบการณ์ของนักเรียนหญิงหลายคนที่อาศัยอยู่ตามแม่น้ำสายสำคัญของโลก 6 สาย และชื่นชมความพยายามของโครงการ Swarovski Waterschool
2021
โครงการ Swarovski Waterschool เปิดตัวโครงการนำร่องที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรในท้องถิ่น ได้แก่ Earthwatch Australia และ Kids Teaching Kids ซึ่งนับเป็นความสำเร็จที่น่าตื่นเต้นสำหรับโครงการ Waterschool ซึ่งปัจจุบันดำเนินการอยู่ในหกทวีป

นวัตกรรมคริสตัลของ Swarovski
หัวข้อ:2003
Swarovski ได้รับการรับรอง OEKO-Tex 100 สำหรับส่วนประกอบของ คริสตัล ซึ่งเป็นการยืนยันว่าทั้งผลิตภัณฑ์และโรงงานผลิตของเรามีความปลอดภัยสำหรับมนุษย์และระบบนิเวศ
2007
การเปิดตัวโปรแกรม "CLEAR" ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มหลักเกณฑ์ที่กำหนดขึ้นตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยแสดงข้อมูลสารที่มีข้อจำกัดและสารต้องห้ามที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของข้อกำหนดเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมด
2009
Swarovski เปิดตัวคริสตัลสีแดงปลอดแคดเมียม* เช่น “โกเมน” และ “อินเดียนสยาม” โดยใช้สูตรนวัตกรรมที่จดสิทธิบัตรแล้ว
2012
การเปิดตัวโปรแกรม Advanced Crystal เพื่อลดปริมาณตะกั่วลงเป็นจำนวนมากให้เหลือไม่เกิน 90 ppm (ส่วนต่อล้านส่วน) โดยไม่กระทบต่อความเจิดจรัสและคุณภาพทางแสงของคริสตัลของเรา
2017
มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของโปรแกรม Advanced Crystal เพื่อใช้สูตรบุกเบิกที่ตรงตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดที่สุด โดยลดระดับปริมาณตะกั่วให้เกลือไม่เกิน 40 ส่วนต่อล้านส่วน ทำใหเรากลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมคริสตัลไร้สารตะกั่ว*

สถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน
หัวข้อ:2010
อาคารสำนักงาน (แมนเนดอร์ฟ) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ในสวิสเซอร์แลนด์เป็นไปตามมาตรฐาน Swiss Minergie (พลังงานต่ำ) เนื่องจากมีการใช้โครงสร้าง façade วิศวกรรมบริการด้านอาคาร และระบบเทอร์โมแอคทีฟ จึงสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความหนาแน่นของอากาศ การใช้งานในเวลากลางวัน การทำความร้อน ฉนวนกันความร้อน กระจกดูดซับความร้อน การกระจายความร้อน และการระบายอากาศแบบควบคุม
2018
พิธีเปิดและเปิดโรงงาน "Manufaktur" (พร้อมกับ "Campus 311") ซึ่งเป็นโรงงานสำหรับกระบวนการสร้างต้นแบบอย่างรวดเร็วที่ล้ำสมัยและได้รับการออกแบบอย่างยั่งยืนของเรา โดยมีพื้นที่ 7,000 ตารางเมตร และเกิดจากความร่วมมือกับสถาปนิกชาวนอร์เวย์จาก Snøhetta ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ อาคารของ Manufaktur แสดงถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ยั่งยืนโดยได้รับการรับรองระดับโกลด์ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design)

มูลนิธิ Swarovski
หัวข้อ:2013
มูลนิธิ Swarovski ก่อตั้งขึ้นเพื่อสานต่อโครงการด้านการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และการกุศลที่ดำเนินการมาตลอดห้าชั่วอายุคน
2017
ศูนย์การเรียนรู้แห่งมูลนิธิ Swarovski เปิดตัวที่พิพิธภัณฑ์การออกแบบ เพื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับการศึกษาด้านการออกแบบ และมีผู้เรียนจำนวนมากถึง 40,000 คนในแต่ละปี
2021
มูลนิธิ Swarovski Creatives for Our Future เป็นโครงการทุนการศึกษาระดับโลกในรูปแบบใหม่ที่ออกแบบโดยมีสำนักงานเพื่อความร่วมมือแห่งสหประชาชาติเป็นที่ปรึกษา เพื่อค้นหาและพัฒนาผู้นำด้านการสร้างสรรค์เพื่อความยั่งยืนรุ่นต่อไป

ความรับผิดชอบด้านห่วงโซ่อุปทาน
หัวข้อ:2014
การเปิดตัวโครงการริเริ่มด้านการจัดหาด้วยความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นด้านห่วงโซ่อุปทานภายนอกของเรา และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน การจัดหาด้วยความรับผิดชอบจะรวมถึงการตรวจสอบประสิทธิภาพของผู้จำหน่าย และสนับสนุนให้บริษัทเหล่านี้บริหารจัดการสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมในโรงงานผลิตของตนเอง

นวัตกรรมที่ยั่งยืน
หัวข้อ:2018
Atelier Swarovski เปิดตัวคอลเลกชันหลัก ได้แก่ Swarovski Create Diamonds ซึ่งเป็นเครื่องประดับชั้นสูงชิ้นแรกที่ใช้ทองคำที่ได้จากการค้าที่เป็นธรรม และมรกตที่สร้างสรรค์ขึ้นในห้องปฏิบัติการ
2022
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Fluenta (วางจำหน่ายในงานแฟชั่นวีคฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวปี 2022) เป็นคอลเลกชันที่คำนึงถึงความยั่งยืนคอลเลกชันแรกของเรา รังสรรค์จากคริสตัลที่กลับมาอีกครั้งของ Swarovski และโลหะฐานที่ผ่านการรีไซเคิล กลุ่มผลิตภัณฑ์นี้นำทรัพยากรอันมีค่ากลับมาใช้ในรูปแบบใหม่ แทนการใช้วัตถุดิบใหม่ จึงช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

พลังแห่งดวงอาทิตย์
หัวข้อ:2014
การติดตั้งระบบน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์บนชั้นดาดฟ้าที่โรงงานของเราในปูเน่ อินเดีย
2018
การติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ขนาด 1400 กิโลวัตต์ที่แมรีกอท จิวเวลรี่ ประเทศไทย
2022
Swarovski ติดตั้งระบบเซลล์แสงอาทิตย์ขนาด 300 กิโลวัตต์บนชั้นดาดฟ้าที่โรงงานของเราในวัตเทนส์

การประเมินผลกระทบของเรา
หัวข้อ:2019
Swarovski เผยแพร่การศึกษาค้นคว้าร่วมกับ Trucost (ส่วนหนึ่งของ S&P Global) ซึ่งแสดงให้เห็นผลกระทบที่คริสตัลของ Swarovski มีต่อสิ่งแวดล้อม ผลการวิจัยพบว่าคริสตัลของ Swarovski มีต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมที่ต่ำกว่าวัสดุเครื่องประดับอื่น ๆ
2021
Swarovski ดำเนินการประเมินวัฏจักรชีวิตด้านสิ่งแวดล้อม (LCA) ฉบับสมบูรณ์เป็นครั้งแรก โดยครอบคลุมสินค้าที่มียอดจำหน่ายสูงสุด 5 อย่างของเรา ผลการประเมิน LCA ชี้ให้เห็นปัญหาสำคัญที่เราต้องแก้ไข เพื่อลดผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อม

การเริ่มต้นใหม่
หัวข้อ:Swarovski ริเริ่มการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับธุรกิจของเรา โดยนำหลักการด้านความยั่งยืนมาใช้กับธุรกิจคริสตัลของ Swarovski จึงช่วยให้เราสามารถเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายในอนาคต และมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจตามวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และแผนงานด้านความยั่งยืนของเราให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
หัวข้อ:2021
Swarovski เข้าร่วมโครงการ Science Based Target Initiative (SBTi) เพื่อปฏิบัติตามวิธีการลดก๊าซเรือนกระจกที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว และมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการผลิตทั้งทางตรงและทางอ้อมลง 47% และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมนอกกระบวนการผลิตลง 28% ภายในปี 2030 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านวิธีการดำเนินธุรกิจของเราให้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ
2022
ในปีนี้โรงงานผลิตทั้งหมดของเราในเอเชียจัดหาพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน 100% จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และทุ่งกังหันลมในภูมิภาค จึงได้รับใบรับรองพลังงานหมุนเวียน ความพยายามนี้ทำให้เราสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 2 ได้อย่างเป็นรูปธรรม

การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบและความก้าวหน้าของเรา
หัวข้อ:จากความมุ่งมั่นของเราในการให้ข้อมูลอย่างโปร่งใสเกี่ยวกับผลกระทบที่เรามีต่อเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม เราจึงเปลี่ยนจากการรายงานด้านความยั่งยืนทุกสองปีมาเป็นการรายงานทุกหนึ่งปี